ในปัจจุบันผู้ปกครองคนไทยมักนิยมส่งบุตรหลานไปเรียนต่อมัธยมในต่างประเทศ โดยอาจจะเป็นการไปแค่ระยะเวลาสั้นๆ ในช่วงปิดเทอม หรืออาจจะเป็นระยะเวลา 1 ปี หรือหากเรียนแล้วชอบก็สามารถเรียนจนจบการศึกษาในระดับมัธยมในต่างประเทศ แล้วหลังจากนั้นอาจจะเดินทางไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในระดับปริญญาตรีในต่างประเทศต่อไป หากมีกำลังทุนมากพอ หรืออาจจะให้น้องๆ เดินทางกลับมาเรียนต่อระดับปริญญาตรีในประเทศไทยแต่เป็นหลักสูตรนานาชาติซึ่งมีการเปิดกันอย่างแพร่หลายในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น จุฬา ธรรมศาสตร์ มหิดล ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม การไปเรียนต่อมัธยมในต่างประเทศนั้นไม่ว่าจะเป็นในประเทศใดก็ตาม น้องๆควรมีความพร้อมในทุกๆด้าน ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จใจการไปเรียนต่อ อย่างไรก็ตามวันนี้เราจะมาแนะนำสิ่งที่ต้องมีสามหัวข้อหลักๆดังนี้
1. ภาษาอังกฤษ น้องๆ หลายๆ คนเรียนในระบบการศึกษาแบบไทย หรือแม้แต่ English Program สำหรับน้องๆ บางคนอาจจะมีภาษาอังกฤษที่ไม่แข็งแรงนัก หรือรู้ตัวเลยว่าเรามีปัญหาในทุกทุกษะเลย น้องๆกลุ่มนี้ต้องเตรียมตัวเสียแต่เนิ่นๆ โดยแนะนำให้มีเวลาอย่างน้อยประมาณ 6 เดือน – 1 ปี โดยสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมจากศูนย์ภาษาของโรงเรียน ศูนย์ภาษาเอกชนต่างๆ หรือแม้กระทั่งเรียนรู้ด้วยตัวเองจากหลักสูตร Online ของสถาบันภาษาจากทั่วโลก
สำหรับน้องบางคนที่ภาษาดีขึ้นมาหน่อย น้องๆ อาจจะพอฟังออกและพอพูดได้ในระดับหนึ่ง แต่ปัญหาที่มักพบไม่ต่างกันคือปัญหาในเรื่องของ Academic Writing ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเรียนต่อในต่างประเทศ และต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนาในส่วนของทักษะในเรื่องของการเขียนเชิงวิชาการ เพื่อที่จะได้มีการวางแผนการเตรียมตัวก่อนเดินทางไปเรียนในต่างประเทศ ซึ่งพี่ๆจะแนะนำให้อ่าน อ่าน และก็อ่านบทความวิชาการที่ตีพิมพ์ในเว็บไซด์ของโรงเรียนมัธยมต่างประเทศ หรือรายงานการทำโครงงานต่างๆของนักเรียนต่างประเทศ น้องๆจะเห็นถึงหลักการในการเขียนบทความ และต้องนำมาฝึกเขียนบทความของตัวเองให้คุ้นชิน น้องๆสามารถส่งมาให้พวกพี่ๆ GENT ช่วยอ่าน และ Comment ได้เลยนะครับ
2. วัยวุฒิและกระบวนการคิด น้องๆ บางคนคุ้นชินกับระบบการศึกษาไทยที่เน้นเรื่องของการเรียนแบบ Lecture และเน้นการป้อนข้อมูล แต่ไม่ได้เน้นทักษะการหาข้อมูลเพื่อพัฒนาความรู้ด้วยตัวเอง ดังนั้นทักษะการเรียนรู้ในห้องเรียนก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งสิ่งที่น้องต้องมี ซึ่งผู้ปกครองสามารถช่วยน้องๆในการเพิ่มทักษะเหล่านี้ได้ด้วยตัวเองเลย เช่น คุณพ่อคุณแม่ตั้งหัวข้องานขึ้นมา โดยเริ่มจากสิ่งที่น้องๆเค้าชอบไปจนถึงงานด้านวิชาการ โดยน้องๆจะต้องไปทำการบ้านหาข้อมูลงานนั้นๆมาทำสรุป และนำเสนองานกับผู้ปกครอง ซึ่งน้องๆเองก็จะได้ฝึกการตั้งคำถาม คิด วิเคาระห์ หาคำตอบกับงานที่เราให้ผู้ปกครองให้มา
3. ความขยันและทัศนคติต่อการเรียน ผู้ปกครองหลายๆ ท่านยังมีความคิดว่าการส่งน้องๆ ไปเรียนต่างประเทศจะเป็น Key Success ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น หรือพูดอีกนัยนึงก็คือการวัดดวงส่งน้องไป ซึ่งจริงๆ แล้ว การส่งน้องไปโดยไม่มีการวางแผนและทำความเข้าใจกับตัวน้องเอง หรือแม้กระทั่งการบังคับให้ไปเรียนนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เนื่องจากน้องบางคนอาจไม่เข้าใจและมีอคติต่อการเรียน ทำให้ไม่สนใจและเลือกดำเนินตัวเองในทางที่ผิด ดังนั้นผู้ปกครองต้องมีการพูดคุยกับน้องๆ อธิบายให้น้องเห็นภาพการไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ ปรับแต่งทัศนคติก่อนเดินทางไปเรียน ถึงเป็นเหตุผลที่เราจะต้องมีการสัมพาษณ์เด็กทุกคนด้วยตัวเอง และเลือกโรงเรียนที่เหมาะสมให้กับเค้า ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกันทั้งน้องๆ ผู้ปกครอง และ GENT
ที่สำคัญน้องๆต้องมีความขยัน โดยเฉพาะช่วงแรกๆนอกจากต้องปรับตัวเรื่องการเรียนแล้ว น้องๆยังต้องพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษด้วย ซึ่งนั่นทำให้น้องๆ ต้องทำงานหนักและใช้ความพยายาม ซึ่งทุกคนต้องท้อเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นน้องๆต้องมีทัศนคติที่ดี มีความขยัน และพยายามมากกว่าเดิมก่อนในช่วงแรกๆ ซึ่งพอผ่านไปสักพักน้องๆจะเริ่มปรับตัวได้ และจะเข้าสู่ระบบการเรียนที่ประเทศนั้นได้ด้วยตัวเอง บอกได้เลยว่าน้องๆทุกคนทำได้ และทำได้ดีด้วย “เด็กไทยไม่แพ้ใครในโลก” เป็นวลีที่ใช้ได้จริง เชื่อพี่!!!
ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงปัจจัยหลักๆ ที่จะทำให้น้องๆปรับตัวและเรียนมัธยมในต่างประเทศได้ ดังนั้นหากผู้ปกครองมีความคิดที่อยากให้น้องๆไปเรียนต่อมัธยมในต่างประเทศ สามารถติดต่อ GENT เพื่อให้คำแนะนำและวางแผนในการเรียนต่อมัธยมในต่างประเทศ โดยทีมงานเราจะแนะนำ เลือกประเทศและระบบการศึกษาที่เหมาะกับน้องๆ เราจะทำงานร่วมกันกับผู้ปกครองและน้องๆ ตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนไปเรียน จนสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยม โดยน้องๆจะมีผู้ให้คำปรึกษาส่วนตัวทุกคน
สอบถามข้อมูลจากเราได้เลยที่ 062-656-5996 ครับ หรือ Line Official ของเรา @gentedutainment